89 ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชทาน “ศาลาเฉลิมกรุง” เป็นโรงมหรสพหลวงแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 กรฎาคม 2476 โดยช่วงเช้าวันนี้ ศาลาเฉลิมกรุงได้จัดพิธีทางศาสนา เริ่มด้วย เวลา 08.00 น. “พิธีสงฆ์” ณ เวทีศาลาเฉลิมกรุง ต่อด้วยเวลา 09.09 น. “พิธีบวงสรวง” ณ บริเวณด้านหน้าศาลาเฉลิมกรุง พร้อมจัดการแสดงรำบวงสรวง ชุดบุตรวายุจัตุโลกบาลประทานพร โดยนักแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง มีหนุมานตัวละครเอกในเรื่องรามเกียรติ์ อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง ได้มาอำนวยพรพร้อมทั้งเชิญเทวะจตุโลกบาลผู้คุ้มภัย ปกปักและรักษาโลกมนุษย์ทั้งสี่ทิศ คือ พระอินทร์ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ ท้าวเวสสุวัณ เสด็จจากทิพย์พิมานมาร่วมประทานพร ให้ศาลาเฉลิมกรุงสถิตสถาวรรุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า ธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมนาฏศิลป์ดนตรีสืบไป
จากนั้นเวลา 10.00 น. ได้มีพิธีมอบทุนสนับสนุนทางด้านการเงินแก่ศิลปินที่ประสบปัญหาทางด้านสุขภาพ และมอบทุนการศึกษาจากกองทุนนาฏดุริยางคศิลปไทย “มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง” ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ประจำปีพุทธศักราช 2565 และมอบทุนช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลนักแสดงอาวุโส “มูลนิธิสวัสดิการนักแสดง” เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ปีนี้จึงยังคงจัดพิธีขึ้นเป็นการภายใน
ปิดท้ายวันดีๆ ด้วยการแสดงนาฏศิลป์ไทย เบิกโรงชุด วสันตนิยาย เป็นการแสดงชุดหนึ่งที่นิยมแสดงมาแต่โบราณ เกี่ยวกับตำนานฟ้าแลบฟ้าร้อง โดยมีนางมณีเมขลาเทพผู้รักษามหาสมุทร และรามสูรอสูรเทพบุตร เป็นตัวละครดำเนินเรื่อง แสดงโดย นักเรียน-นักศึกษา ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับทุนการศึกษา กองทุนนาฏดุริยางคศิลปไทย “มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง” ประจำปี 2565
ด้วยความผูกพันกับหลายสิ่งหลายอย่างจากอดีตจนถึงปัจจุบัน 89 ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุงยังคงยืนหยัดอย่างสง่างามอยู่คู่กับกรุงเทพมหานคร เป็นเสมือนบันทึกในหน้าตำนานแห่งประวัติศาสตร์และสังคมไทยของกรุงเทพมหานครสืบไป